ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

ศัพท์เกี่ยวกับ IT ครั้งที่ 2


1.   MP4
MP4 หรือ Mpeg4 เป็น มาตรฐานในการย่อขนาดไฟล์เสียงและภาพยนตร์ที่มีความสามารถสูง โดยสามารถย่อไฟล์ภาพยนตร์ให้มีขนาดเล็กแต่ให้คุณภาพในระดับที่เกือบเทียบ เท่าดีวีดี แต่ถ้าต้องการความคมชัดสูงก็สามารถบีบอัดหนังในคุณภาพระดับ High Definition ได้ (ไฟล์ DivX ก็เป็นไฟล์ชนิดหนึ่งที่เอามาตรฐานการลดขนาดภาพของ Mpeg4 มาใช้)
เมื่อพูดถึงเครื่องเล่น MP4 ส่วนใหญ่มักจะหมายถึง เครื่องเล่นพกพาที่สามารถเล่นไฟล์ภาพเคลื่อนไหวได้ เช่น หนัง คาราโอเกะ คลิปวิดีโอ นอกจากนี้ยังสามารถดู eBook (.txt) สมุด โทรศัพท์ เล่นเกม ฟังเพลง วิทยุเอฟเอ็ม อัดเสียง โฟโต้อัลบั้ม และจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชไดรฟ์ ซึ่งถ้าพูดจริงๆ แล้ว เครื่องที่เล่น MP4 ได้ ไม่จำเป็นจะต้องเล่นภาพยนตร์ได้เสมอไป อาจเอาไว้ใช้ฟังเพลงที่ใช้มาตรฐานการเข้ารหัสด้วย AAC (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐาน MPEG4) เท่านั้นก็ได้ เพียงแต่ปัจจุบันนี้ตัวเครื่องมักจะมีฟังก์ชันให้คุณใช้งานครบถ้วนแถมยังใส่ซิมเอาไว้ใช้แทนโทรศัพท์มือถือได้อีกต่างหาก
2.  Dynamic DNS
สำหรับ DNS หลายคนคงเคยได้ยินคำนี้กันมาบ้างแล้ว วันนี้ลองมาขยายขอบเขตของตัว DNS กัน นั้นก็คือ Dynamic DNS ว่าจะมีประโยชน์มากขนาดไหน ขออธิบายอีกสักครั้งสำหรับระบบดีเอ็นเอส (DNS : Domain Name Server) หน้าที่ของดีเอ็นเอสคือ เก็บข้อมูลของชื่อโดเมนและไอพีแอดเดรส เช่น www.company.com มีไอพีแอดเดรส 203.156.24.52 คอมพิวเตอร์ที่เก็บข้อมูลดีเอ็นเอสนี้เรียกว่า ดีเอ็นเอสเซิร์ฟเวอร์ (DNS Server) เมื่อคอมพิวเตอร์เรียกเว็บไซต์ www.company.com เราต้องระบุชื่อเว็บไซต์ให้กับโปรแกรมประเภทบราวเซอร์ เช่น IE จากนั้นบราวเซอร์จะทำการสอบถามไปยังดีเอ็นเอสเซิร์ฟเวอร์ เพื่อขอทราบหมายเลขไอพีแอดเดรสของ www.company.com จากนั้นดีเอ็นเอสเซิร์ฟเวอร์จะแจ้งหมายเลขไอพีแอดเดรสของ www.company.com ให้ทราบ เมื่อได้ไอพีแอดเดรสของ www.company.com แล้ว บราวเซอร์จะติดต่อไปยังที่อยู่หรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ของ www.company.com หากพบแล้วก็ทำการร้องขอข้อมูลจากเว็บเซิร์ฟเวอร์นั้น และเว็บเซิร์ฟเวอร์นั้นจะส่งข้อมูลของ www.company.com กลับมาที่บราวเซอร์ เราจึงเห็นเว็บไซต์นั้นได้
สำหรับ ดีเอ็นเอสเซิร์ฟเวอร์นี้จะติดตั้งอยู่ที่ไอเอสพีที่เราใช้บริการอยู่และจะทำ งานเชื่อมต่อกับดีเอ็นเอสเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก ส่วนเว็บเซิร์ฟเวอร์นั้นก็ต้องได้รับการกำหนดไอพีแอดเดรสแบบคงที่ด้วย แต่สำหรับการจัดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์ไว้ที่บ้านหรือสำนักงาน ไม่สามารถกำหนดไอพีแอดเดรสแบบคงที่ได้ เพราะเป็นไอพีแอดเดรสที่ได้รับมาแบบชั่วคราว โดยไอพีแอดเดรสจะเปลี่ยนไปทุกๆ ครั้งเมื่อเชื่อมต่อกับไอเอสพี เช่น เชื่อมต่อครั้งแรกอาจจะได้หมายเลข 203.156.24.52 พอวันรุ่งขึ้นอาจจะเชื่อมต่ออีกครั้งหนึ่งซึ่งได้หมายเลข 203.145.32.96 และ เปลี่ยนไปทุกครั้งที่ทำการเชื่อมต่อใหม่ (การขอไอพีแอดเดรสแบบคงที่ สามารถทำได้แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก) ดังนั้น การใช้โดเมนเนมกับไอพีแอดเดรสแบบไม่คงที่จึงไม่สามารถทำได้ จำเป็นต้องใช้ระบบไดนามิกดีเอ็นเอสเข้ามาช่วย
ระบบไดนามิกดีเอ็นเอส (Dynamic DNS) เป็น ระบบที่เก็บไอพีแอดเดรสกับโดเมนเนมของคอมพิวเตอร์ที่ได้ลงทะเบียนไว้ คอมพิวเตอร์ของเราสามารถแจ้งไอพีแอดเดรสที่เปลี่ยนแปลงทุกๆ ครั้ง ให้กับดีเอ็นเอสเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการไดนามิกดีเอ็นเอส ผ่านทางโปรแกรมสำหรับแจ้งไอพีแอดเดรสอัตโนมัติ สามารถดาวน์โหลดได้จากผู้ให้บริการ
ดัง นั้น บริการไดนามิกดีเอ็นเอสจึงช่วยให้ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตเอดีเอสแอลที่มี ไอพีแอดเดรสแบบไม่คงที่ สามารถจัดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์ของตนเองขึ้นที่บ้านหรือสำนักงานได้
โดย มีแอดเดรสเป็นโดเมนเนมแทนตัวเลข ซึ่งจะช่วยให้เรามีตัวตนในโลกของอินเทอร์เน็ต แนะนับเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการโฆษณาให้กับธุรกิจของคุณ สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างคุ้มค่าและประหยัดนั่นเอง
สำหรับผู้ให้บริการระบบไดนามิกดีเอ็นเอสก็มีอยู่หลายแห่ง แต่จะขอแนะนำบริการนี้ที่ www.no-ip.com ซึ่งมีบริการลงทะเบียนฟรี แต่จะได้โดเมนเนมแบบ yourname.no-ip.info หรืออื่นๆ ตามที่มีให้เลือกในแบบเงื่อนไขที่ฟรี
3.    Wi-Fi
วิถี ชีวิตยุคใหม่ของคนเมือง ที่ไม่ต้องการทำงานที่ไม่ยึดติดกับที่ อินเทอร์เน็ตไร้สายจะเหมาะกับคุณมากที่สุด เพราะว่าสามารถใช้งานได้ทุกอย่างไม่ว่าจะดาวน์โหลดไฟล์ หรือค้นหาข้อมูล ก็เพียงแค่มองหาสัญลักษณ์ Wi-Fi บนอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น โน้ตบุ๊ก หรือ โทรศัพท์มือถือ หากมีสัญลักษณ์ Wi-Fi ก็สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายได้แล้ว แต่คุณก็อาจจะยังสงสัยว่า จริงๆแล้ว Wi-Fi มันคืออะไรกันแน่?
Wi-Fi หรือในชื่อเต็มๆว่า Wireless-Fidelity เป็นเทคโนโลยีสื่อสารแบบไร้สายที่ตอนนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินสายเหมือนกับเครือข่ายแลนแบบเดิมๆ
เทคโนโลยีหรือมาตรฐานของ Wi-Fi ในปัจจุบันที่ใช้กันอยู่คือ 802.11 ซึ่งมีอายุมากกว่า 7 ปีแล้ว โดยเป็นมาตรฐานที่ถูกอนุมัติให้ใช้จาก IEEE(the Institute of Electrical and Electronics Engineers) เพื่อให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์สามารถสื่อสารกันได้บนมาตรฐานการทำงานแบบเดียวกันนั่นเอง
ในปัจจุบัน ทั่วกรุงเทพฯ ตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่โรงพยาบาล ฯลฯ ได้เริ่มมีบริการ Access Point สำหรับใช้งาน Wi-Fi ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทันใจ จนแทบจะพูดได้ว่า คุณสามารถมีชีวิตแบบไร้สายได้ทุกที่ทุกเวลากันเลยทีเดียว

4.  HD DVD
HD DVD (High Definition DVD) เป็นมาตรฐานของออปติคอลดิสก์ซึ่งพัฒนาโดยโตชิบา ในรูปแบบของ ดีวีดี เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งมีความคมชัดมากกว่า DVD ในปัจจุบัน โดยมีขนาดของแผ่นเท่ากับแผ่น CD ธรรมดา และยิงด้วย blue laser แบบเดียวกับที่ใช้ใน Blu-ray Disc โดยในแบบ single layer จะความจุมากถึง 15 GB และ dual layer มีความจุ 30 GB ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Blu-ray Disc ซึ่งจุได้ 25 GB สำหรับ single layer และ 50GB สำหรับ dual layer อาจจะได้ความจุน้อยกว่าแต่ราคาจะถูกกว่า และทางโตชิบา มีแผนจะวางจำหน่ายเครื่องเล่น HD DVD ช่วงเดือนมีนา ที่จะถึงนี้ พร้อมกับทางค่ายหนังก็จะวางแผนจะออกวางจำหน่าย ดีวีดีแบบ Hi-Def ประมาณ 200 เรื่อง ทยอยตามออกมาในช่วงใกล้เคียงกัน
5. Zombie
คอมพิวเตอร์ที่ถูกควบคุมโดยนักเจาะ เพื่อจุดประสงค์ในการใช้เพื่อโจมตีคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ตัวอย่างทั่ว ๆ ไปได้แก่การโจมตีแบบ DDoS (Distrubuted Denial of Service) เมื่อเครื่องที่เป็น zombie ถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องโจมตีเครื่องอื่นที่เป็นเป้าหมาย เจ้าของเครื่องที่เป็น zombie อาจ ไม่รู้ว่าคอมพิวเตอร์ของพวกเขาถูกควบคุมโดยนักเจาะ ถ้าคอมพิวเตอร์นั้นถูกใช้เพื่อเป็นฐานการโจมตีที่เป้าหมายได้รับความเสียหาย เจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น อาจถูกตามหาตัว หรือรับผิดชอบตามกฎหมาย
6.  Cross Site Scripting
Cross Site Scripting (CSS) ซึ่ง คำนี้แฮคเกอร์ส่วนใหญ่จะเข้าใจดี เพราะมันเป็นเทคนิคที่ใช้ในการจับตาดูเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่ต้องมีการใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้เยี่ยมชมในการเข้าถึง และไม่มีการตรวจสอบข้อมูล เมื่อพวกเขากลับเข้ามาเยี่ยมชมซ้ำอีกครั้งในภายหลัง แฮคเกอร์จะแอบสร้างลิงค์ขึ้นมาใหม่บนเว็บไซต์เป้าหมายด้วยโค้ด หรือสคริปท์โดยอาศัยช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์นั้น แล้วแอบขโมยเอาข้อมูลที่ผู้ใช้กรอกเข้าไปโดยที่ผู้ใช้เข้าใจว่า ได้ให้ข้อมูลสำคัญกับทางเว็บไซต์ที่กำลังติดต่ออยู่ในขณะนั้น การโจมตีด้วยเทคนิค Cross Site Scripting แฮคเกอร์ สามารถสร้าง และส่งลิงค์ไปให้กับเหยื่อ (ด้วยชื่อของเว็บไซต์ที่มีช่องโหว่ และต้องมีการป้อนข้อมูลเพื่อเป็นสมาชิก) ผ่านทางอีเมล์, เว็บบอร์ด เป็นต้น เมื่อแฮคเกอร์ได้ข้อมูลของคุณไปแล้ว พวกมันก็จะสวมรอยด้วยการใช้ข้อมูลของคุณล็อกออนเข้าไปยังเว็บไซต์ต่างๆ ได้
กล่าวโดยสรุปก็คือ Cross Site Scripting เป็น เทคนิคการส่งลิงค์ที่ฝังโค้ด หรือสคริปท์การทำงานของแฮคเกอร์เข้าไป เพื่อให้ปรากฎบนหน้าเว็บของเว็บไซต์ที่มีช่องโหว่ โดยหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญแล้วส่งกลับมาให้แฮคเกอร์แทนที่จะผ่านเข้า ไปในเว็บไซต์ที่เรากำลังเข้าไปเยี่ยมชมอยู่ในขณะนั้นนั่นเอง
7.   Cookies
Cookies คือ ข้อมูลขนาดเล็กที่จะถูกส่งไปเก็บไว้ในบราวเซอร์ของท่าน เพื่อทำการเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชม เมื่อท่านเปิดเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราอีกครั้งในคราวหลัง เครื่องก็จะจำได้ทันทีว่าท่านเคยเข้ามาเยี่ยมชมแล้ว Cookies ไม่ ใช่โปรแกรมที่จะเข้าไปอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานแล้วทำลายไฟล์ต่าง ๆ แต่มีไว้เพื่อช่วยให้เราคอยติดตามว่าผู้ใช้แวะเยี่ยมหน้าใดบ้าง เริ่มต้นจากหน้าไหนจบลงด้วยหน้าไหนและบ่อยแค่ไหน เราไม่ได้ใช้ Cookies เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้คือใคร เพียงแต่บอกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์นี้เคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราแล้ว Cookies ไม่ได้ใช้สำหรับเก็บ ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่อีเมล์ หากท่านไม่ประสงค์ให้ Cookies เข้าไปอยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่าน ท่านสามารถ สั่งให้บราวเซอร์ปฏิเสธไฟล์ Cookies ได้
ประโยชน์ของ Cookies :
(1).
ใช้จัดเก็บข้อมูลของผู้แวะเข้ามาเยี่ยมชม และจัดเก็บข้อมูลของสมาชิกแต่ละท่าน เพื่อใช้ในนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการให้ตรงตามความต้องการของแต่ละท่านมากที่สุด ซึ่ง Cookies เหล่านี้จะเริ่มเก็บข้อมูลหลังจากที่ท่านใส่รหัสผ่านของสมาชิกและจะหยุดการจัดเก็บข้อมูลเมื่อท่าน ออกจากรหัสผ่าน หรือ log out

(2).
ใช้ประเมินจำนวนผู้เข้าชม การใช้บราวเซอร์แต่ละประเภทจะมีการใช้ Cookies ที่ แตกต่างกันออกไป ทำให้สามารถจำแนกการใช้งานของผู้เข้าชมทั้งที่เป็นสมาชิกและมิได้เป็นสมาชิก ได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ในการนำเสนอโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายโดยประเมินจากความ สนใจและพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต

(3).
ใช้ตรวจสอบความถี่ในการใช้งาน หรือรูปแบบการเข้าชม การตรวจสอบ Cookies นี้ นอกจากจะทำให้เราเข้าใจถึงลักษณะนิสัย และพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแล้ว ยังมีผลต่อการปรับปรุงบริการของเรา เนื้อหา การโฆษณา และการส่งเสริมการขายต่างๆ ในเว็บไซต์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละบุคคล
8.  WiMAX
WiMAX (Worldwide Interoperability for Microwave Access) หรือมาตรฐาน IEEE 802.16 คือเทคโนโลยีไร้สายความเร็วสูงล่าสุด ที่คาดว่าจะถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในอนาคตอันใกล้ ต่อมามีการแตกเวอร์ชั่นเป็น IEEE 802.16a ซึ่งได้รับอนุมัติออกมาเมื่อเดือนมกราคม 2004 โดยสถาบันวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือ IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers) มีรัศมีทำการ 30 ไมล์ (ประมาณ 48 กิโลเมตร) และมีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูงสุด 75 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) กว้างกว่า 10 เท่าและเร็วกว่า 30 เท่าเทียบกับ 3G
คุณสมบัติเด่นของ IEEE 802.16a คือ ความสามารถในการส่งสัญญาณจากจุดเดียวไปยังหลายจุด (Point-to-Multipoint) ได้พร้อมกัน, รองรับการทำงานแบบ Non-Line-of-Sight คือ ทำงานได้แม้มีสิ่งกีดขวาง เช่น ต้นไม้หรืออาคาร และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ให้บริการบรอดแบนด์ในการขยายพื้นที่ให้ บริการ มาตรฐาน IEEE 802.16a จะทำงานบนความถี่ย่าน 2-11 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) และสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์มาตรฐานชนิดอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้
IEEE 802.16a สามารถ ตอบสนองความต้องการในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลที่สายเคเบิล ลากไปไม่ถึงได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็สะดวกสบายและประหยัดสำหรับสำหรับผู้ให้บริการในการขยายเครือ ข่ายที่มีอยู่แล้ว เพราะไม่ต้องลงทุนขุดถนนเพื่อวางสายเคเบิล นอกจากนี้ IEEE 802.16a ยังได้รับการปรับปรุงในเรื่องคุณภาพในการให้บริการ (QoS) ให้สามารถรองรับได้ทั้งภาพ (Video) และเสียง (Voice) โดยไม่ใช้ทรัพยากรของเครือข่ายมากอย่างเดิม (Low Lantency Network) ส่วนเรื่องซีเคียวริตี้ ได้เพิ่มคุณสมบัติของความเป็นส่วนตัว (Privacy) ซึ่งต้องได้รับอนุญาต (Authentication) ก่อนที่จะเข้าออกเครือข่าย และมีการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ขณะรับส่ง ทำให้การรับส่งข้อมูลบนมาตรฐานตัวนี้มีความปลอดภัยสูง
เวอร์ชั่นต่างๆของ WiMAX ในปัจจุบันมีดังนี้
IEEE 802.16 เป็นมาตรฐานที่ให้ระยะทางการเชื่อมโยง 1.6-4.8 กิโลเมตร เป็นมาตรฐานเดียวที่สนับสนุน LoS (Line of Sight) คือต้องไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างเครื่องรับเครื่องส่ง และรันบนย่านความถี่ 10-16 GHz
IEEE 802.16a เป็นมาตรฐานที่ปรับปรุงจาก IEEE 802.16 เดิม รันบนความถี่ย่าน 2-11 GHz โดยคุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุงจากมาตรฐาน 802.16 เดิมคือ การรองรับการทำงานแบบ NLoS (Non-Line-of-Sight) คือแม้มีสิ่งกีดขวางก็ยังทำงานได้ รัศมีทำการ 30 ไมล์ และความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุด 75 Mbps นั่นหมายความว่า WiMAX สามารถรองรับบริการเครือข่ายความเร็วสูงระดับ ที 1 (T1-Type) จำนวน 60 ราย และบริการ DSL จำนวนอีกหลายร้อยรายได้พร้อมกันโดยไม่มีปัญหา
IEEE 802.16e เป็นมาตรฐานที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกับอุปกรณ์โมบายล์ เช่น พีดีเอและโน้ตบุ๊ค รัศมีทำการ 1.6-4.8 กิโลเมตร สนับสนุนการเชื่อมต่อในขณะเคลื่อนที่โดยไม่กระทบกับคุณภาพและความเสถียรของระบบ  WiMAX Forum คือ องค์กรที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยบริษัทสื่อสารชั้นนำทั่วโลก เพื่อร่วมกันพัฒนาและกำหนดมาตรฐานกลางสำหรับมาตรฐาน IEEE 802.16 รวมถึงการทดสอบและออกใบรับรองให้แก่อุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.16
9.  Client/Server
วิธี การประมวลผลแบบกระจายวิธีหนึ่ง โดยมีการโต้ตอบกันระหว่างไคลเอ็นต์ซอฟต์แวร์ที่อยู่บนเครื่องของผู้ใช้และ เซิร์ฟเวอร์ซอฟต์แวร์ที่อยู่บนโฮสต์คอมพิวเตอร์โฮสต์ คอมพิวเตอร์อาจจะเป็นยูนิกซ์ เมนเฟรมหรือเครื่องประเภทอื่นได้ ไคลเอ็นต์ซอฟต์แวร์จะจัดการด้านการแสดงผลข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ซอฟต์แวร์จทำหน้าที่ของฐานข้อมูลการติดต่อระหว่างซอฟต์แวร์ทั้ง คู่จะกำหนดโดยโปรโตคอลเฉพาะ วิธีการประมวลผลแบบไคลเอ็นต์/เซิร์ฟเวอร์นี้ที่เป็นที่นิยมมากขึ้นเมื่อ เครื่องส่วนบุคคลและเครือข่ายมีความสามารถเพิ่มมากขึ้น
10.          Broadband
สื่อกลางประเภทสายเคเบิลที่สามารถส่งข้อมูลได้หลายช่องทาง (ใช้แถบความถี่หลายความถี่)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น